การเรียนการสอนวันที่31/10/2560

การเรียนการสอนสำหรับวันนี้อาจารย์ได้สอนเรื่อง จรรยาบรรณวิชาชีพครู  ความประพฤติหรือกิริยาอาการที่ผู้ประกอบวิชาชีพครูควรประพฤติปฏิบัติ  เพื่อให้เกิดความดีงามขึ้นแก่ตนเองและวิชาชีพครู มาตรฐานวิชาชีพครู

ข้อที่ 1
ครูต้องรักและเมตตาศิษย์ โดยให้ความเอาใจใส่ช่วงเหลือส่งเสริมให้กำลังใจในการศึกษาเล่าเรียนแก่ศิษย์โดยเสมอหน้า

ข้อที่ 2 
ครูต้องอบรม สั่งสอน ฝึกฝน สร้างเสริมความรู้ ทักษะและนิสัยที่ถูกต้องดีงามให้แก่ศิษย์อย่างเต็มความสามารถด้วยความบริสุทธิ์ใจ

ข้อที่ 3 
ครูต้องประพฤติ ปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ศิษย์ทั้งทางกาย วาจา และจิตใจ

ข้อที่ 4 
ครูต้องไม่กระทำตนเป็นปฏิปักษ์ต่อความเจริญทางกายสติปัญญา จิตใจ อารมณ์และสังคมของศิษย์

ข้อที่ 5 

ครูต้องไม่แสวงหาประโยชน์อันเป็นอามิสสินจ้างจากศิษย์ในการปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ และไม่ใช้ศิษย์กระทำการใดๆ อันเป็นการหาประโยชน์ให้แก่ตนโดยมิชอบ

ข้อที่ 6 

กฎย่อมพัฒนาตนเองทั้งในด้านวิชาชีพด้านบุคลิกภาพและวิสัยทัศน์ ให้ทันต่อการพัฒนาทางวิทยาการเศรษฐกิจ สังคมและการเมืองอยู่เสมอ

ข้อที่ 7 

ครูย่อมรักและศรัทธาในวิชาชีพครู และเป็นสมาชิกที่ดีขององค์กรวิชาชีพครู

ข้อที่ 8 

ครูพึงช่วยเหลือเกื้อกูลครูและชุมชนในทางสร้างสรรค์

ข้อที่ 9 

ครูพึงประสงค์ ปฏิบัติตน เป็นผู้นำในการอนุรักษ์และพัฒนาภูมิปัญญา และวัฒนธรรมไทย

เกณฑ์มาตรฐานวิชาชีพครู (คุรุสภา) 

                 มาตรฐานที่ 1  ปฏิบัติกิจกรรมทางวิชาการเกี่ยวกับการพัฒนาวิชาชีพครูอยู่เสมอ                                                         มาตรฐานที่ 2  ตัดสินใจปฏิบัติกิจกรรมต่าง ๆ โดยคำนึงถึงผลที่จะเกิดขึ้นกับผู้เรียน

                    มาตรฐานที่ 3  มุ่งมั่นพัฒนาผู้เรียนให้เต็มตามศักยภาพ

                    มาตรฐานที่ 4  พัฒนาแผนการสอนให้สามารถปฏิบัติให้เกิดผลจริง

                    มาตรฐานที่ 5  พัฒนาสื่อการเรียนการสอนให้มีประสิทธิภาพอยู่เสมอ

                    มาตรฐานที่ 6  จัดกิจกรรมการเรียนการสอน โดยเน้นผลถาวรที่เกิดแก่ผู้เรียน

                    มาตรฐานที่ 7  รายงานผลการพัฒนาคุณภาพของผู้เรียนได้อย่างมีระบบ

                    มาตรฐานที่ 8  ปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ผู้เรียน

                    มาตรฐานที่ 9  ร่วมมือกับผู้อื่นในสถานศึกษาอย่างสร้างสรรค์

                    มาตรฐานที่ 10  ร่วมมือกับผู้อื่นอย่างสร้างสรรค์ในชุมชน

                    มาตรฐานที่ 11  แสวงหาและใช้ข้อมูลข่าวสารในการพัฒนา

                    มาตรฐานที่ 12  สร้างโอกาสให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ได้ทุกสถานการณ์

การตั้งคำถาม 5W1H

Who      ใคร
What      อะไร
Where    ที่ไหน
When     เมื่อไหร่
Why       ทำไม
How       อย่างไร



ตัวอย่างเช่น   
                     1. (Who ใคร) ใครเป็นคนเก็บรองเท้าแก้วของ Cinderellaได้
                          2.  (What อะไร)  ชุดของ Cinderella มีสีอะไร

                          3.  (Where ที่ไหน)  Cinderella ไปร่วมงานเต้นรำที่ไหน

                          4.  (When เมื่อไหร่)  เมื่อไหร่พี่สาวทั้งสองจะเลิกกลั่นแกล้ง Cinderella

                          5.  (Why ทำไม)  ทำไม Cinderella ถึงอยากไปงานเต้นรำ 
                          6.  (How อย่างไร)  เด็กๆต้องทำอย่างไรถึงจะได้พรจากนางฟ้าใจดี

******************************************************************************************************************

เติมคำในช่องว่าง

_ัน_ี

เช่น  ฝันดี  ทันที  พันปี  

ต่อมาก็เป็นการฝึกสมองเพื่อไม่ให้หลงลืมอะไรง่ายๆ เพื่อนๆทำได้ดีขึ้นเรื่อยๆ และสนุกกับกิจกรรมที่ทำ

เมื่อฝึกสมองเสร็จอาจารย์ก็ได้แจกเนื้อเพลงมาให้ใหม่และให้ทุกคนฝึกร้องพร้อมกันร่วมถึงอาจารย์ได้เปิดวีดีโอเพลงให้ฟังเพื่อให้รู้ทำนองเพลง

  

ประเมินอาจารย์      อาจารย์สอนสนุกทำให้บรรยากาศในห้องไม่เครียดทำให้ทุกๆคนผ่อนคลาย      

ประเมินเพื่อน          เพื่อนๆตั้งใจเรียนดี และให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรม

ประเมินตัวเอง         ดิฉันตั้งใจฟังที่อาจารย์สอนและให้ความร่วมมือกับการทำกิจกรรม

การเรียนการสอนวันที่ 17/10/2560

สวัสดีเช้าวันอังคารคะ วันนี้ทั้งสองเซกได้เรียนรวมกันเริ่มต้อาจารย์ได้ให้เพื่อนที่ยังไม่ได้พูดถึงครูในดวงใจให้ออกมาพูดให้เพื่อนฟัง ซึ่งครูของเพื่อนก็ให้ทั้งความรัก ความรู้ และอะไรต่างๆ ทำให้เพื่อนคิดถึงและรักครูท่านนี้เสมอ

กิจกรรมต่อมาคือการฝึกสมองตอนเช้า เหมือนกับทุกๆครั้งที่เราทำ ทุกคนทำได้ดีขึ้นทุกคน

กิจกรรม ไร่สตรอเบอรี่ คือให้คิดคำตอบที่เรานึกได้เมื่ออาจารย์ถามเพื่อทดสอบจิตใจของเราว่าเป็นคนอย่างไร

ไร่สตรอเบอรี่

และอาจารย์ได้แจกเพลงมาให้ร้องพร้อมๆกัน ซึ่งมีหลากหลายเพลงทุกคนร้องกันอย่างสนุกสนาน

เนื้อหาการเรียน คุณธรรม จริยธรรม จรรยาบรรณของวิชาชีพครู 

คุณธรรม  สิ่งหรือสภาพที่เกิดขึ้นในจิต
มีผลทำให้จิตอยู่ในภาวะที่ดีงาม
และพร้อมที่จะสร้างสรรค์แต่สิ่งที่เป็นคุณและประโยชน์
จริยธรรม
สภาพของความประพฤติ หรือพฤติกรรมการแสดงออกที่พึงประสงค์

คุณธรรมพื้นฐาน 8 ประการ
๑.ขยัน ความตั้งใจเพียรพยายามทำหน้าที่การงานอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมออดทน

๒.ประหยัด การรู้จักเก็บออมถนอมใช้ทรัพย์สิน สิ่งของแต่พอควร พอประมาณ ให้เกิดประโยชน์

    คุ้มค่า 

๓.ซื่อสัตย์ ประพฤติตรงไม่เอนเอียงไม่มีเล่ห์เหลี่ยมมีความจริงใจปลอดจากความรู้สึกลำเอียง 
หรืออคติ

๔. มีวินัย การยึดมั่นในระเบียบแบบแผนข้อบังคับและข้อปฏิบัติซึ่งมีทั้งวินัยในตนเอง
และวินัยต่อสังคม    

๕. สุภาพ เรียบร้อย อ่อนโยน  ละมุนละม่อมกิริยามารยาทที่ดีงามมีสัมมาคารวะ 

     (ยิ้ม ไหว้ ทักทาย)

๖. สะอาด ปราศจากความมัวหมองทั้งกายใจและสภาพแวดล้อมความผ่องใสเป็นที่เจริญตาทำให้                     เกิดความสบายใจแก่ผู้พบเห็น

๗.สามัคคี ความพร้อมเพรียงกันความกลมเกลียวกันความปรองดองกันร่วมใจกันปฏิบัติงาน
ไม่ทะเลาะวิวาท

๘. มีน้ำใจ ความจริงใจที่ไม่เห็นแก่เพียงตัวเอง หรือเรื่องของตัวเอง แต่เห็นอกเห็นใจเห็นคุณค่าในเพื่อนมนุษย์ มีความเอื้อเฟื้อเอื้ออาทร เกื้อกูลกันและกัน

ประเมินอาจารย์      อาจารย์สอนสนุกทำให้บรรยากาศในห้องไม่เครียดทำให้ทุกๆคนผ่อนคลาย      
ประเมินเพื่อน          เพื่อนๆตั้งใจเรียนดี และให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรม
ประเมินตัวเอง        ดิฉันตั้งใจฟังที่อาจารย์สอนเป็นอย่างดีและมาเรียนตรงเวลา

การเรียนการสอนวันที่10/10/2560

สวัสดีเช้าวันอังคารคะ วันนี้จากการบ้านที่เราได้ทำกันมาคือ ครูในดวงใจ เช้าวันนี้เราจึงได้ออกไปพูดหน้าชั้นเรียนว่าครูในดวงใจของเราแต่ละคนนั้นเป็นอย่างไร และมีความประทับใจอะไรต่อครูท่านนี้บางคนพูดไปก็มีร้องให้บ้างอาจจะเป็นเพราะเพื่อนนั้นคิดถึงคำสอนของครูท่านนี้ ครูของแต่ละคนที่ประใจก็ต่างกัน อย่างเช่น ครูท่านนี้ใช้ความเข้าใจ ความรักต่อลูกศิษย์  ครูท่านนี้ทำตัวเป็นแบบอย่างเพื่อให้ลูกศิษย์ได้เห็นและทำตาม  และการที่เราออกไปพูดถึงครูในดวงใจเราก็ได้รู้อะไรในหลายๆเรื่อง คือ อะไรที่เราชอบที่ครูทำให้เรา เราก็ต้องนำสิ่งที่ดีๆ ที่เราชอบไปปฏิบัติต่อเด็กที่เราจะสอนเขาในวันข้างหน้า

เพื่อนพูดถึงครูในดวงใจ

และเมื่อเพื่อนๆนำเสนอเรียบร้อยอาจารย์เบียร์ก็ได้ให้พวกเราสัญญาว่าอะไรที่เราชอบ อะไรที่เราคิดว่าดีเราจะทำแบบนี้ต่อเด็กๆที่เราจะสอนเขา และสิ่งไหนที่ไม่ดีเราจะไม่ทำ

ประเมินครู            อาจารย์สอนสนุกทำให้นักศึกษาชอบ และสนุกกับการเรียน
ประเมินเพื่อน       เพื่อนตั้งใจเรียนและตั้งใจฟังเพื่อนพูด
ประเมินตัวเอง      ตัวฉันตังใจเรียนและตั้งใจพูดถึงครูในดวงใจ

การบ้านครูในดวงใจ

ครูในดวงใจของฉันคือ ครู จามร ประสาร หรือ ครูอา ครูจามรเป็นครูที่น่ารักเข้าใจเด็กในทุก ๆ เรื่องไม่ว่าเราจะทำตัวไม่น่ารักแค่ไหนครูคนนี้ก็ไม่เคยที่จะทำโทษพวกเราเลย กลับมีแต่คำสอน และคอยให้กำลังพวกเราอยู่เสมอในระยะเวลา3ปีที่เป็นที่ปรึกษาครูคนนี้ดูแลพวกเราเสมือนเป็นพ่อคนที่ 2 ค่อยดูแลเอาใจใส่พวกเรามาตลอด คอยถามเสมอว่ามีงานอะไรค้างไหม มีอะไรให้ช่วยรึป่าว แล้วมีเรื่องอะไรครูคนนี้ก็คอยช่วยเสมอ รักและเคารพครูคนนี้เป็นที่สุด

ครูในดวงใจของฉัน

การเรียนการสอนวันที่ 3/10/2560

เริ่มต้นการเรียนของเช้าวันนี้เราก็มาฝึกพัฒนาสมองกันเหมือนทุก ๆ เช้าของการเรียนเพื่อน ๆ ทำกันได้มากขึ้นและสนุกกับการฝึกพัฒนาสมอง นอกจากนี้อาจารย์ยังมีกิจกรรมให้ทำชื่อว่ารถไฟเหาะ เพื่อให้เราคิดคำตอบที่อาจารย์ถาม เพื่อแสดงถึงตัวตนของเราว่าเป็นอย่างไรซึ่งกิจกรรมนี้สนุกมากเพื่อน ๆ และตัวฉันต่างยิ้มแย้มและหัวเราะกันอย่างมีความสุข

วันนี้เนื้อหาการเรียนคือเรื่อง แนวคิด หลักการและทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับบุคลิกภาพ 

โครงสร้างของบุคลิกภาพ

1. อิด ( Id )  จะเป็นต้นกำเนิดของบุคลิกภาพและเป็นส่วนที่ติดตัวมนุษย์มาตั้งแต่เกิด แรงขับทาง                             สัญชาตญาณ(Instinct )         

2.อีโก้ ( Ego ) มีการใช้เหตุผล มีการใช้สติปัญญา และการรับรู้

    ที่เหมาะสม

3.ซูเปอร์อีโก้ (Superego) เป็นส่วนที่เกี่ยวข้องกับศีลธรรม

    บรรทัดฐานของสังคม ค่านิยม และขนบธรรมเนียมประเพณีต่างๆ

พัฒนาบุคลิกภาพออกเป็น 5 ขั้น ได้แก่

1. ขั้นปาก (Oral Stage) เริ่มตั้งแต่แรกเกิดถึง 1 ขวบ         

2. ขั้นทวาร (Anal Stage ) เด็กจะมีอายุตั้งแต่ 1-3 ขวบ 

3. ขั้นอวัยวะเพศตอนต้น (Phallic Stage ) เริ่มตั้งแต่ 3 - 5 ขวบ 

4. ขั้นแฝง (Latency Stage ) เริ่มตั้งแต่ อายุ 6 - 11 ปี 

5. ขั้นอวัยวะเพศตอนปลาย (Genital Stage) เริ่มจาก 12 ขวบเป็นต้นไป 

ทฤษฎีการเรียนรู้ของ Albert Bandura

ทฤษฎีการเรียนรู้ของ Albert Bandura  มีความเชื่อว่าการเรียนรู้ของมนุษย์ส่วนมากเป็นการเรียนรู้โดยการสังเกตหรือการเลียนแบบ เนื่องจากมนุษย์มีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อมที่อยู่รอบ ๆ ตัวอยู่เสมอ

บันดูราเชื่อว่าการเรียนรู้ของมนุษย์ส่วนมาก เป็นการเรียนรู้โดยการสังเกต 

ทฤษฎีการเรียนรู้ของ Ivan Petrovich Pavlov

พา พลอฟ เชื่อว่าการเรียนรู้ของสิ่งมีชีวิตจำนวนมากเกิดจากการวางเงื่อนไข กล่าวคือ การตอบสนองหรือการเรียนรู้ที่เกิดขึ้นต่อสิ่งเร้าหนึ่งมักมีเงื่อนไขหรือ สถานการณ์เกิดขึ้น ซึ่งในสภาพปกติหรือในชีวิตประจำวันการตอบสนองเช่นนั้นอาจไม่มี เช่น กรณีสุนัขได้ยินเสียงกระดิ่งและน้ำลายไหล เสียงกระดิ่งเป็นสิ่งเร้าที่ต้องการให้เกิดการเรียนรู้จากการวางเงื่อนไข พาพลอฟ เรียกว่า สิ่งเร้าที่มีเงื่อนไข และปฏิกิริยาน้ำลายไหล เป็นการตอบสนองที่เรียกว่าการตอบสนองที่มีเงื่อนไข 

ทฤษฎีการเรียนรู้ของ Skinner

หลักการเรียนรู้ทฤษฎี สกินเนอร์ (Skinner)กับทฤษฏีการวางเงื่อนไขแบบการกระทำ (Operant Conditioning) โดยจากแนวความคิดที่ว่าความสัมพันธ์ระหว่างพฤติกรรมกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นสิ่งก่อให้เกิดพฤติกรรม และผลของการกระทำของพฤติกรรมนั้นโดยที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมนั้น ทฤษฏีนี้เน้นการกระทำของผู้ที่เรียนรู้มากกว่าสิ่งที่ผู้สอนกำหนดขึ้น

วีดีโอการทดลองของ Skinner

ทฤษฎีการเรียนรู้ของ John B. Watson

ซึ่งเป็นการวางเงื่อนไขแบบคลาสสิค คือการใช้สิ่งเร้าสองสิ่งคู่กัน สิ่งเร้าที่มีการวางเงื่อนไข (CS) กับสิ่งเร้าที่ไม่วางเงื่อนไข (UCS) เพื่อให้เกิดการตอบสนองที่ต้องการ คือ การเรียนรู้นั่นเองและการที่จะทราบว่า การวางเงื่อนไขแบบคลาสสิคได้ผลหรือไม่ ก็คือการตัดสิ่งเร้าที่ไม่วางเงื่อนไข (CS) ถ้ายังมีการตอบสนองเหมือนเดิมที่ยังมีสิ่งเร้าที่ไม่วางเงื่อนไขอยู่แสดงว่าการวางเงื่อนไขได้ผล

ประเมินครู            อาจารย์มีวิธีการสอนที่สนุกไม่ทำให้เด็กเครียดมีกิจกรรมให้เล่นสนุกอยู่เสนอแล้ว                                               สอดแทรกความรู้ให้เด็กเสมอ

ประเมินเพื่อน       เพื่อน ๆ ตั้งใจในการเรียน และการทำกิจกรรมเป็นอย่างมาก

ประเมินตนเอง     ตั้งใจเรียนเป็นอย่างดี มีคุยบ้างเป็นบ้างครั้ง ให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรม

                            เป็นอย่างดี

*********************************************************************************